วิเคราะห์ราคาทองคำ โดย ฮั่วเซ่งเฮงฯ HGF (24-11-14 | 09:37)
- จีนลดดอกเบี้ยครั้งแรกนับแต่ปี 2555
- ธนาคารกลางยุโรปยืนยันพร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจ
ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 โดยได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน รวมทั้งรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดประเมิน แต่ปัจจัยโดยรวมยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ราคาทองกลับมาเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น การผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางหลายประเทศยังเป็นปัจจัยลบที่กดดันราคาทองให้มีกรอบการฟื้นตัวค่อนข้างจำกัด
ธนาคารจีนปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปี ลง 0.25% และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะเวลา 1 ปี ลง 0.4% เช่นเดียวกับธนาคารกลางยุโรปซึ่งได้ยืนยันว่าพร้อมจะมีมาตรการที่จะผลักให้อัตราเงินเฟ้อของยุโรปกลับมาอยู่ในระดับที่ควรจะเป็น ซึ่งเป็นสัญญาณว่าธนาคารกลางยุโรปมีความพยายามที่จะออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ซึ่งจะส่งผลให้มีสภาพคล่องเข้าสู่ระบบมากขึ้น และเป็นปัจจัยกดดันราคาทองผ่านการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ แต่ในอีกด้านหนึ่งเงินทุนที่มีมากก็อาจกลับเข้ามาซื้อทองคำที่มีราคาถูกลง
ราคาทองคำอ่อนตัวลงในช่วงสั้นๆ ก่อนที่แรงซื้อที่ยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้ราคาทองดีดตัวขึ้นมาปิดที่บริเวณ 1,200 ดอลลาร์ ได้อีกครั้ง ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองในระยะนี้จึงยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นได้ต่อ โดยคาดว่าราคาทองจะแกว่งตัวขึ้นไปเคลื่อนไหวที่แนวต้านบริเวณ 1,220-1,225 ดอลลาร์ ได้ต่อไป หากราคาทองอ่อนตัวลงในระหว่างวันมีแนวรับสำหรับกลับเข้าซื้อกำไรอยู่ที่บริเวณ 1,185-1,190 ดอลลาร์
ราคาทองอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 16.0 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มฟื้นตัวกลับ แต่ยังไม่สามารถผ่านขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 16.50 ดอลลาร์ ได้ ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองจึงยังคงมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวขึ้นลงระหว่างแนวรับและแนวต้านบริเวณ 16.0 และ 16.50 ดอลลาร์ ต่อไป
โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนธ.ค.57
Close chg. Support Resistance
18,770 +170.00 18,550/18,400 18,850/18,950
ราคาทองอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,180-1,185 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มฟื้นตัวกลับ การเก็งกำไรในระยะสั้นยังสามารถเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรจากแนวรับบริเวณดังกล่าวได้ต่อไป โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,170-1,175 ดอลลาร์
ตลาดโลหะ
ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 8.46 ดอลลาร์ สู่ 1,201.09 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายวันศุกร์หลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 3 สัปดาห์ที่ 1,207.70 ดอลลาร์ในระหว่างวัน โดยได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อชดเชย และจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในจีน โดยการปรับลดดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า อุปสงค์ทองในจีนอาจจะพุ่งขึ้นในอนาคต ราคาสัญญาทองเดือนธ.ค.ปิดตลาดปรับขึ้น 0.57 % สู่ 1,197.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,186.10-1,207.60 ดอลลาร์ ราคาทองได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) โดยนายดรากีกล่าวว่า จำเป็นต้องมีการหนุนอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนให้พุ่งขึ้นจากระดับที่ต่ำเกินไปเป็นอย่างมากภายในเวลาอันรวดเร็ว โดยใช้วิธีการใดก็ได้ที่จำเป็น ถ้อยแถลงดังกล่าวเปิดโอกาสให้อีซีบีดำเนินมาตรการอย่างแข็งกร้าวในอนาคตเพื่อสกัดกั้นภาวะเงินฝืด ทั้งนี้ ทองได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงนี้ เพราะว่าทองเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการทำประกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ อีซีบีแถลงว่า อีซีบีได้เริ่มต้นเข้าซื้อหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสินทรัพย์ (ABS) ด้วย โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้และเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ราคาทองได้รับแรงหนุนจากปัจจัยทางเทคนิค หลังจากราคาทองสามารถพุ่งขึ้นเหนือระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1,200 ดอลลาร์ ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี ในวันศุกร์ เพื่อลดต้นทุนการกู้ยืม และกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยธนาคารกลางจีนประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลดลง 0.40% สู่ระดับ 5.6%