YLG : วิเคราะห์ราคาทองคำ โดย วายแอลจีฯ (30-12-14 | 10:05)
คำแนะนำ
เสี่ยงเปิดสถานะซื้อระยะสั้นเมื่อราคาลงมายังโซน $1,175 ทั้งนี้จำเป็นต้องพิจารณาค่าเงินบาทประกอบการลงทุน
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำสปอตสหรัฐฯปรับตัวลง 11.94 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยยังคงเผชิญแรงขายทำกำไรเมื่อราคาเข้าใกล้บริเวณ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากตลาดยังคงขาดปัจจัยสนับสนุนแม้ในระยะแรกๆราคาทองคำจะได้รับแรงหนุนจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของกรีซ แต่จะเห็นได้ว่าประเด็นดังกล่าวส่งผลกระทบในวงจำกัดมาก ขณะที่ปริมาณการซื้อที่น้อยลงยังเป็นผลให้การเคลื่อนไหวของราคาค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ตามค่าเงินสกุลดอลลาร์ยังคงเดินหน้าแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนีดอลลาร์(Dollar index) ได้ปรับตัวขี้นเหนือระดับ 90 ไปแล้ว เป็นปัจจัยสำคัญในการกดดันราคาทองคำมาตลอดทั้งปีนี้และคาดว่าจะส่งผลต่อเนื่องไปถึงปีหน้าได้อีกด้วย
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำปรับตัวลงมา คาดราคาจะดีดกลับระยะสั้นในลักษณะ technical rebound แต่ยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร หากเข้าเขตแนวต้าน 1,190 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นต้นไป เบื้องต้นประเมินแนวรับระยะสั้นที่ 1,175 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน
ขายทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 1,190 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอเปิดสถานะซื้อใหม่เมื่อราคาขยับลงเข้าใกล้แนวรับระดับ 1,170 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ยังคงเน้นการเก็งกำไรระยะสั้นไปก่อน
ข่าวสารประกอบการลงทุน
• (-)ดอลล์แตะนิวไฮเทียบยูโร ดอลลาร์แตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ในรอบเกือบ 29 เดือนเมื่อเทียบกับยูโรในวันจันทร์ ขณะที่เทรดเดอร์คาดว่านโยบายการเงินที่คุมเข้มมากขึ้นในสหรัฐเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆนั้นทำให้แทบไม่มีเหตุผลที่จะหยุดยั้งการทะยานขึ้นของดอลลาร์ในปีนี้ ยูโรร่วงลงสู่ 1.2142 ดอลลาร์ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 29 เดือนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในปีหน้า ขณะที่ประเทศอื่นๆกำลังดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย การซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบางก่อนวันหยุดปีใหม่ โดยตลาดญี่ปุ่นจะปิดทำการตั้งแต่วันพุธไปจนถึงวันศุกร์ และจะเปิดทำการอีกครั้งในวันจันทร์หน้า
• (+)แบงก์ ออฟ คอมมูนิเคชั่นคาด CPI จีนเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.4% แบงก์ ออฟ คอมมูนิเคชั่น คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค. ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อหลัก จะขยายตัว 1.4% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเท่ากับระดับในเดือนพ.ย. ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) จะเปิดเผยดัชนี CPI เดือนธ.ค.ในสัปดาห์หน้า แบงก์ ออฟ คอมมูนิเคชั่น คาดการณ์ในรายงานล่าสุดว่า ราคาอาหารซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในตัวเลข CPI อาจขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบรายเดือน แต่ราคาสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร คาดว่าจะลดลงเล็กน้อยจากเดือนที่แล้ว เนื่องจากราคาบ้านและราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง สำนักข่าวซินหัวรายงาน
• (+/-)เงินบาทเปิด 32.97/98 ทรงตัวไร้ประเด็น มองกรอบ 32.95-33.05 นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.97/98 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดในระดับ 32.96/97 บาท/ดอลลาร์ "ไม่มีประเด็นในช่วงนี้ เป็นช่วงปิดปี ดอลลาร์ขยับขึ้นมาในช่วงปลายปีเมื่อเทียบกับทุกสกุล" ทั้งนี้ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ระหว่าง 32.95-33.05 บาท/ดอลลาร์
• (+/-)เจ้าหน้าที่จีนคาด FDI ที่ไหลเข้าประเทศยังมีแนวโน้มทรงตัวในปี 2557, 2558 นายถัง เหวินหง ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนต่างประเทศของกระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า การลงทุนโดยตรงของต่างประเทศ (FDI) ที่หลั่งไหลสู่จีน ยังคงมีแนวโน้มที่มีเสถียรภาพในปี 2557 และ 2558 อันเนื่องมาจากบรรยากาศการลงทุนที่สดใส เขาประเมินว่า FDI จะยังคงอยู่ที่ราว 1.20 แสนล้านดอลลาร์สำหรับตลอดปี 2557 ซึ่งค่อนข้างทรงตัวเมื่อเทียบกับ 1.176 แสนล้านดอลลาร์ที่มีการรายงานไว้เมื่อปีที่แล้ว นายถังกล่าวว่า จีนได้พยายามสร้างบรรยากาศทางธุรกิจที่เป็นธรรม โปร่งใสและสามารถคาดการณ์ได้ เพื่อดึงดูดเม็ดเงินจากต่างชาติ โดยคาดว่าเม็ดเงิน FDI ที่ไหลเข้าสู่จีนในปี 2558 จะยังคงอยู่ที่ระดับเดียวกันกับปีนี้ สำหรับในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ FDI ที่หลั่งไหลสู่จีน ได้เพิ่มขึ้น 0.7% สู่ระดับ 1.0624 แสนล้านดอลลาร์