วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557

CGF : วิเคราะห์ราคาทองคำ โดย คลาสสิกโกลด์ฯ (25-12-14 | 09:14)

CGF : วิเคราะห์ราคาทองคำ โดย คลาสสิกโกลด์ฯ (25-12-14 | 09:14)





Today Strategy: Gold นักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน ส่วนนักลงทุนระยะกลางทยอยเข้าซื้อสะสมหากราคาอ่อนตัวลง SET50 V-shape ทะยานใกล้ 1,040 จุด ระวังแรงขายคลื่น rebound และ volume ต่ำทำผันผวนช่วงสิ้นปี แนะ trading ในกรอบแนวรับ-แนวต้าน หากออกจากกรอบ ควร cut loss แล้ว wait & see

Key Factors
Gold ราคาทองคำตลาด COMEX ปิดลดลง 1.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,173.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 9,000 รายมาสู่ระดับ 280,000 ราย และราคาน้ำมันได้ร่วงลงอีก รวมถึงการแข็งค่าของเงินดอลลาร์และการขายทองคำออกของกองทุน SPDR อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาทองคำจะถูกกดดันจากปัจจัยลบต่างๆแต่ยังทรงตัวเหนือระดับ 1,170 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ประกอบกับจะไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐประกาศในวันนี้และวันศุกร์ เนื่องจากเป็นวันหยุดในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำแกว่งแคบๆในบริเวณนี้ต่อไป
ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก 6.04 จุด ดัชนีดาวโจนส์ค่อนข้างทรงตัวตัว ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง ก่อนวันหยุดในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และตลาดปิดทำการเร็วกว่าปกติ 3 ช.ม.
USD/THB ปิดที่ 32.89 บาทต่อUSD ส่วนเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย นักลงทุนลดสถานะซื้อดอลลาร์ลงท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางก่อนวันหยุด
Oil ราคาน้ำมัน Nymex ร่วงลงอีก ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง EIA รายงาน สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้น 7.3 ล้านบาร์เรลสู่ระดับ 387.2 ล้านบาร์เรล

Market Movement
Gold ราคาทองคำปิดที่ 1,197.65 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,172.55 – 1,181.30 เช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 1,173 USDต่อออนซ์ คาดว่าจะมีแนวรับบริเวณ 1,170/1,160 แนวต้านบริเวณ 1,182/1,192
USD/THB ปิดที่ 32.89 บาทต่อUSD เช้านี้อยู่ที่บริเวณ 32.87 บาทต่อUSD วันนี้ให้แนวต้านบริเวณ 33.0 / 33.2 ให้แนวรับบริเวณ 32.7 / 32.6
ICE Brent ปิดที่ 60.15 USDต่อบาร์เรล วันนี้ให้แนวต้านบริเวณ 63.0 / 65.0 และให้แนวรับบริเวณ 59.0 / 58.0

Recommendations
ระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,140 – 1,250 แนะนำ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน
ระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,100 –1,300 รอสะสม Long บริเวณ 1,100
ระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,000 – 1,400 รอสะสม Long บริเวณ 970

Technical Commentary
ภาพกราฟทางเทคนิค ราคาทองคำราย 240 นาที แกว่ง side way down ใกล้กรอบล่างของ channel ขาลง แต่ยังรักษาจุดต่ำสุดไว้ที่ระดับ 1,170 ได้ แต่การดีดตัวขึ้นไม่สามารถกลับมายืนเหนือ 1,180 ได้ MACD ในกราฟรายวันอยู่ในแดนลบ ส่งสัญญาณ bearish วันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,170/1,160 แนวต้าน 1,182/1,192
Strategy : แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน โดยมีจุด cut loss ฝั่ง long ถ้าหลุด 1,170

Key Point
Positive View( + )
นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางทั่วโลก
ความต้องการทองคำในตลาด Physical
อินเดียเริ่มผ่อนคลายมาตรการนำเข้าทองคำ

Negative View( - )
Fed ยุติมาตรการ QE นักลงทุนกังวลว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น
ECB พร้อมใช้มาตรการ QE ซื้อพันธบัตร ABS
ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้

USD/THB
เงินบาทในกราฟรายวัน แนวโน้มยังเป็นขาขึ้น แต่ macd เริ่มเกิดสัญญาณ bearish divergence จึงแนะนำให้ trading ในกรอบเท่านั้น
ให้แนวต้านบริเวณ 33.0 / 33.2
ให้แนวรับบริเวณ 32.7 / 32.6
Strategy: trading ในกรอบ

Exclusive News
เศรษฐกิจสหรัฐ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 ธ.ค. ปรับตัวลดลง 9,000 ราย มาแตะที่ 280,000 ราย นับเป็นสัญญาณยืนยันว่า ตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนับเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน ที่ตัวเลขต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 8,500 ราย มาแตะ 290,250 ราย สำหรับชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 ธ.ค. มีจำนวนเพิ่มขึ้น 25,000 ราย สู่ระดับ 2.4 ล้านราย
เศรษฐกิจเอเชีย สถาบันสังคมศาสตร์จีน(CASS) เชื่อว่า รัฐบาลจีนจะเสริมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้การควบคุมนโยบายการเงินในปีหน้า โดยระบุในรายงานการพัฒนาการเงินว่า เศรษฐกิจจีนจะเผชิญแรงกดดันช่วงขาลงค่อนข้างหนักในปี 2558 จึงจำเป็นต้องมีการเสริมสร้างนโยบายการเงินเพื่อรับมือผลกระทบเชิงลบจากค่าเงินฝืด และเพื่อรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจให้อยู่ในระดับ 7% แต่ธนาคารกลางจีน(PBOC) ไม่ควรดำเนินการแทรกแซงโดยตรงมากจนเกินไป เนื่องจากมีความเสี่ยงสภาพคล่องระดับภูมิภาค แต่ก็เป็นไปได้ที่ PBOC จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้ง หากการขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ยังอยู่ที่ราว 1% เพื่อช่วยลดต้นทุนทางการเงินของผู้ประกอบการ และอาจปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์(RRR) สำหรับเงินฝาก หากยอดเกินดุลชำระเงินระหว่างประเทศลดลง เพื่อลดแรงกดดันด้านสภาพคล่องของสถาบันทางการเงิน ทั้งนี้ CASS คาดว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจะประกอบไปด้วย การปรับเพิ่มเป้าหมายการขยายตัวของปริมาณเงินตามความหมายกว้าง(M2) จากเพดานปัจจุบันที่ 13% เป็น 14% และโควตาการปล่อยกู้เงินหยวนล็อตใหม่ จาก 10 ล้านล้านหยวน ไปอยู่ที่ 11 ล้านล้านหยวน
ตลาดน้ำมัน สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 ธ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางความคาดหมายถึง 7.3 ล้านบาร์เรล ทำให้ยอดสต๊อกรวมแตะ 387.2 ล้านบาร์เรล สำหรับสต็อกน้ำมันดิบที่จุดส่งน้ำมันเมืองคุชชิ่ง รัฐโอคลาโฮมา เพิ่มขึ้น 973,000 บาร์เรล ด้านสต็อกน้ำมันเบนซิน ทะยานขึ้น 4.1 ล้านบาร์เรล แตะ 226.1 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น รวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 123.8 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมัน ทรงตัวที่ระดับ 93.5%