วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2557

CGF : วิเคราะห์ราคาทองคำ โดย คลาสสิกโกลด์ฯ (24-12-14 | 09:24)

CGF : วิเคราะห์ราคาทองคำ โดย คลาสสิกโกลด์ฯ (24-12-14 | 09:24)







Today Strategy: Gold นักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน ส่วนนักลงทุนระยะกลางทยอยเข้าซื้อสะสมหากราคาอ่อนตัวลง SET50 V-shape ทะยานใกล้ 1,040 จุด ระวังแรงขายคลื่น rebound และ volume ต่ำทำผันผวนช่วงสิ้นปี แนะ trading ในกรอบแนวรับ-แนวต้าน หากออกจากกรอบ ควร cut loss แล้ว wait & see

Key Factors
Gold ราคาทองคำตลาด COMEX ปิดบวก 0.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,175.36 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำทรงตัวอยู่ในระดับเดิม ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ของปี ตอบรับการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่ง ตัวเลข GDP ไตรมาส 3 สหรัฐขยายตัวเกินคาดที่ 5.0% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 11 ปี หลังจากขยายตัว 3.9% ในรายงานครั้งก่อน และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในช่วงท้ายเดือน ธ.ค. พุ่งขึ้นสู่ 93.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 8 ปีนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2007 ในด้านของกองทุน SPDR ขายทองคำออกมา 11.65 ตัน หรือคิดเป็น 1.61 % ซึ่งเป็นปริมาณการขายที่ค่อนข้างมาก คาดว่าเป็นผลจากการปรับพอร์ทการลงทุนในช่วงปลายปีก่อนวันหยุดเทศกาลคริสมาสต์ ในด้านของสำหรับกลยุทธ์การลงทุนในวันนี้แนะนำ trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน
ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก 64.73 จุด โดยได้รับแรงหนุนจากการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ที่ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
USD/THB ปิดที่ 32.89 บาทต่อUSD เงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ค่าเงินยูโรยังอ่อนค่าลงต่อเนื่อง
Oil ราคาน้ำมัน Nymex พุ่งขึ้นหลังมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามา หลังเศรษฐกิจสหรัฐเติบโตเร็วกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ทำให้อุปสงค์น้ำมันมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้

Market Movement
Gold ราคาทองคำปิดที่ 1,197.65 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,170.17 – 1,201.80 เช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 1,177 USDต่อออนซ์ คาดว่าจะมีแนวรับบริเวณ 1,170/1,160 แนวต้านบริเวณ 1,192/1,200
USD/THB ปิดที่ 32.90 บาทต่อUSD เช้านี้อยู่ที่บริเวณ 32.88 บาทต่อUSD วันนี้ให้แนวต้านบริเวณ 33.0 / 33.2 ให้แนวรับบริเวณ 32.7 / 32.6
ICE Brent ปิดที่ 57.12 USDต่อบาร์เรล วันนี้ให้แนวต้านบริเวณ 63.0 / 65.0 และให้แนวรับบริเวณ 59.0 / 58.0

Recommendations
ระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,140 – 1,250 แนะนำ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน
ระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,100 –1,300 รอสะสม Long บริเวณ 1,100
ระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,000 – 1,400 รอสะสม Long บริเวณ 970

Technical Commentary
ภาพกราฟทางเทคนิค ราคาทองคำราย 120 นาที รีบาวน์ขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่ลงมาแตะขอบล่างของ channel ขาลงเมื่อวานนี้ ทำให้ในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ สำหรับภาพในระยะกลางยังเป็น side way หากราคาอ่อนตัวลงมาบริเวณแนวรับ เป็นจังหวะเข้าซื้อสะสมในระยะกลาง วันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,170/1,160 แนวต้าน 1,192/1,200
Strategy : แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน นักลงทุนระยะกลางทยอยเข้าสะสมบริเวณแนวรับ

Key Point
Positive View( + )
นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางทั่วโลก
ความต้องการทองคำในตลาด Physical
อินเดียเริ่มผ่อนคลายมาตรการนำเข้าทองคำ

Negative View( - )
Fed ยุติมาตรการ QE นักลงทุนกังวลว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น
ECB พร้อมใช้มาตรการ QE ซื้อพันธบัตร ABS
ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้

USD/THB
เงินบาทในกราฟรายวัน แนวโน้มยังเป็นขาขึ้น แต่ macd เริ่มเกิดสัญญาณ bearish divergence จึงแนะนำให้ trading ในกรอบเท่านั้น
ให้แนวต้านบริเวณ 33.0 / 33.2
ให้แนวรับบริเวณ 32.7 / 32.6
Strategy: trading ในกรอบ

Exclusive News
เศรษฐกิจสหรัฐ กระทรวงพาณิชย์ปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวของ GDP ในไตรมาส 3 เป็น 5.0% จากการประเมินก่อนหน้านี้ที่ระดับ 3.9% เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุนของภาคธุรกิจ
เศรษฐกิจสหรัฐ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกน ปรับตัวขึ้นแตะ 93.6 ในเดือน ธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2550 เทียบกับระดับ 88.8 ในเดือน พ.ย. ส่วนตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในกลุ่มผู้บริโภคยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2.8% เท่ากับผลการสำรวจในเดือน พ.ย. แต่ลดลงจากระดับ 3.0% ในปีก่อน
เศรษฐกิจสหรัฐ การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคในเดือน พ.ย.เพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อน ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่เร็วขึ้น บ่งชี้ว่า การปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันและความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น ได้กระตุ้นให้ภาคครัวเรือนเลือกซื้อสินค้าและใช้บริการเพิ่มขึ้น ส่วนรายได้ส่วนบุคคล ก็เพิ่มขึ้น 0.4% ในขณะที่รายได้ที่แท้จริง ซึ่งปรับอัตราเงินเฟ้อและภาษีแล้ว เพิ่มขึ้น 0.5%
เศรษฐกิจสหรัฐ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือน พ.ย.ปรับตัวลดลง 0.7% ร่วงลงเป็นเดือนที่ 3 ในรอบ 4 เดือน ส่งสัญญาณถึงความไม่ต่อเนื่องของกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจขยายตัวในปีนี้ และบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจได้ปรับลดระดับการลงทุนลงในช่วงท้ายปี
เศรษฐกิจสหรัฐ ยอดขายบ้านใหม่สำหรับครอบครัวเดี่ยวในเดือน พ.ย.ปรับตัวลดลง 1.6% จากเดือนก่อนหน้า แตะระดับ 438,000 ยูนิต ต่ำลงจากระดับ 445,000 ยูนิตในเดือน ต.ค. หดตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ส่งสัญญาณถึงความเปราะบางของการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัย และเมื่อเทียบเป็นรายปี ยอดขายบ้านใหม่ปรับตัวลดลง 1.6%
เศรษฐกิจยุโรป นายกรัฐมนตรีรัสเซียเตือนว่า เศรษฐกิจจะถดถอยหากรัฐยังใช้นโยบายเดิม โดยเขากล่าวว่าว หากรัฐบาลไม่เปลี่ยนเป้าหมายเชิงกลยุทธ์และงบประมาณรายจ่ายภาครัฐ จะทำให้รัสเซียเผชิญกับภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะประสบปัญหาอย่างหนักในปีหน้า รวมถึงปัญหาจากค่าเงินรูเบิลที่ลดลงเกือบครึ่งด้วย
เศรษฐกิจยุโรป ธนาคารเพื่อการลงทุนแห่งยุโรป(EIB) อนุมัติเงินกู้ 600 ล้านยูโร (735 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้ยูเครน เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวผ่านทางธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก(SME) โดยเงินกู้วงเงิน 200 ล้านยูโร จะเป็นทุนสนับสนุนการเริ่มฟื้นตัวของโครงสร้างพื้นฐานขนาดเล็กที่ถูกทำลายจากความขัดแย้งที่ในพื้นที่ทางภาคตะวันออก ส่วนเงินกู้วงเงิน 400 ล้านยูโร จะใช้สนับสนุนโครงการส่งเสริม SME ที่ได้รับผลกระทบจากความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจในปัจจุบัน เพื่อป้องกันปัญหาขาดแคลนเงินทุนระยะยาว ทั้งนี้ เงินกู้ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการให้เงินกู้ 3 พันล้านยูโร ระหว่างปี 2557-2559
เศรษฐกิจเอเชีย จีนขาดดุลการค้าด้านบริการ 1.279 แสนล้านหยวน (2.08 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือน ต.ค.ที่ขาดดุล 1.056 แสนล้านหยวน (1.72 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยรายได้จากการค้าด้านบริการแตะ 5.02 หมื่นล้านหยวน (8.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขณะที่รายจ่ายอยู่ที่ 1.781 แสนล้านหยวน (2.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทั้งนี้ ในช่วง 11 เดือนแรกของปี จีนขาดดุลการค้าด้านบริการทั้งสิ้น 9.519 แสนล้านหยวน (1.549 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ตลาดทองคำ ยูเครนลดการถือทองคำ 2 เดือนติด ขณะที่รัสเซียยังซื้อเพิ่ม กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) เปิดเผยข้อมูลผ่านเว็บไซต์ว่า ยูเครนลดการถือครองทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน เหลือ 23.6 ตัน จากในเดือน ต.ค.ที่ 26.1 ตัน แตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 ปี ในขณะที่รัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำ 8 เดือนติดต่อกัน เป็น 1,187.5 ตัน เพิ่มจาก 1,168.7 ตัน ในเดือน ต.ค. ส่งผลให้รัสเซียถือทองคำสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี