วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

วิเคราะห์ราคาทองคำ โดย เอ็มทีเอส โกลด์ฯ MTS (25-11-14 | 09:51)

วิเคราะห์ราคาทองคำ โดย เอ็มทีเอส โกลด์ฯ MTS (25-11-14 | 09:51)



สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,201 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,200เหรียญ/ออนซ์ (22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 32.84 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,550 บาท กับ 18,650บาท และกลับมาปิดที่ 18,500 บาท กับ 18,600 บาท

ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 959 คู่สัญญาแบบ 10 บาทอยู่ที่ 6,552 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 2 % แบบ10 บาท ลดลง 3% GFZ14 ปิด 18,700 บาท และ GFG14 ปิด 18,770 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,710 บาท GF10G14 ปิดที่ 18,760 บาท

สัญญา Comex ร่วงลง 2 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,195.7 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 73 เซนต์ ปิดตลาดที่ระดับ 75.78 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 720.91 ตัน ( คงทองเท่าเดิม)

ข่าวที่สำคัญ

-เมื่อคืนนี้ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 0.17% และปิดต่ำกว่าระดับ 1,200 เหรียญอีกครั้ง เพราะได้รับแรงกดดันจากแรงเทขายของนักลงทุน หลังตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง

-นักกลยุทธ์จาก มิทซูบิชิ ครอป กล่าวว่า แม้ราคาทองคำจะปรับตัวลดลงจากกระแสข่าวการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของจีนที่เจือจางลงไป แต่การขับเคลื่อนมาตรการทางการเงินของจีนจะช่วยสนับสนุนปริมาณความต้องการทองคำให้ปรับเพิ่มขึ้นได้ และจะผลักดันให้ราคาทองคำตอบรับกับผลเชิงบวกในระยะยาว

-นักวิเคราะห์จาก ABN กล่าวว่า การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาช่วยหยุดแนวโน้มขาลงของทองคำได้ในระยะสั้น แต่ยังคงมีความเป็นไปได้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีหน้าหรือเร็วกว่าคาด ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดตอบรับอย่างรวดเร็ว และจะส่งผลกดดันราคาทองคำในทิศทางขาลงต่อ

-นักวิเคราะห์จากคิทโก ระบุว่า ทองคำอาจปรับตัวขึ้นต่ออย่างยากลำบาก เพราะได้รับปัจจัยลบที่เข้ามากดดัน ได้แก่ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินหลักอื่นๆทั่วโลก รวมถึงดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ยังคงปรับตัวสูงขึ้นในรอบ 4 ปี แตะระดับ 88.388 ก่อนจะปรับตัวลงเพราะได้รับแรงกดดันจากแรงเทขายทำกำไร
เทรดเดอร์ทองคำ ระบุว่า ตลาดทองคำจะค่อนข้างเงียบเหงาในช่วงปลายสัปดาห์นี้จากวันหยุด Thanksgiving ของสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนบางส่วนรอคอยผลการประชุมของโอเปกในสัปดาห์นี้ รวมถึงผลการลงประชามติของชาวสวิสเซอร์แลนด์ต่อการถือครองทองคำเพิ่มขึ้น 20% ของธนาคารกลางสวิสฯ

-ค่าเงินดอลลาร์ยังคงผันผวนและกลับมาอ่อนค่าสู่ระดับ 1.2437 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2388 ยูโร/ดอลลาร์ เพราะได้รับแรงกดดันจากข้อมูลกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ส่งสัญญาณชะลอตัวในเดือนที่ผ่านมา

-ค่าเงินเยนอ่อนค่าใกล้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ 0.4% สู่ระดับ 118.22 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 117.79 เยน/ดอลลาร์ เพราะได้รับแรงกดดันจากความต้องการเงินเยนที่ลดลง หลังธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกส่งสัญญาณดำเนินนโยบายกระตุ้นทางการเงินเพิ่มเติม

-ผลสำรวจจากธนาคารกลางเฟด สาขาชิคาโก ระบุว่า ดัชนีกิจกรรมภาคการผลิตประจำเดือนตุลาคม ปรับตัวลดลงสู่ระดับ +0.14 จาก +0.29 ในเดือนก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯเริ่มชะลอตัวลงในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

-สถาบัน Ifo ของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีประจำเดือนพฤศจิกายน ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 104.7 จากระดับ 103.2 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน หลังจากที่อ่อนแรงมาอย่างต่อเนื่อง

-เช้าวันนี้ สรุปรายงานการประชุมของบีโอเจ วาระ 30 ตุลาคม ระบุว่า เจ้าหน้าที่บีโอเจยังคงมีความวิตกกังวลกับการเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงและอาจส่งผลกระทบต่อยอดงบดุลของรัฐบาลญี่ปุ่นได้

-ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง เพราะได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มโอเปคอาจจะไม่ปรับลดเพดานการผลิตในการประชุมที่จะถึงนี้

-ขณะที่อิหร่านพยายามผลักดันให้กลุ่มโอเปคปรับลดปริมาณการผลิตลง 1 ล้านบาร์เรล/วัน ก่อนการประชุมจะเริ่มต้นขึ้น 27 พ.ย.นี้

-สำนักข่าว MKS ระบุว่า การเจรจาโครงการนิวเคลียของอิหร่านกับชาติมหาอำนาจมีแนวโน้มจะขยายกำหนดเส้นตายออกไป และคาดว่าจะมีการเปิดประชุมใหม่ในเดือนธันวาคม หลังมีรายงานว่าการตัดสินใจหาข้อตกลงสุดท้ายร่วมกันล้มเหลว

-เมื่อวานนี้ นาย ซัค ฮาเกล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังได้รับแรงกดดันจากการเผชิญความท้าทายจากวิกฤตการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ

-ทั้งนี้นักวิเคราะห์จาก รอยเตอร์ ระบุว่า การลาออกของนายซัค ฮาเกล ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกของพรรคเดโมแครต และอาจสร้างความกดดันในการดำรงตำแหน่งของนายโอบามา หลังจากจบการเลือกตั้งกลางเทอมในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาพรรครีพับลิกันได้รับชัยชนะและสามารถครองเสียงส่วนใหญ่ได้ทั้ง 2 สภา ดังนั้นจึงต้องจับตาไปยังการปรับเปลี่ยนครั้งใหม่ของทำเนียบขาวอย่างใกล้ชิด

-ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด +0.04% และยังคงปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง 3 วันทำการ เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก หลังธนาคารกลางหลายแห่งได้ส่งสัญญาณการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่

-เช้าวันนี้ ดัชนีนิกเกอิ เปิด +0.77% เพราะได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นดาวโจนส์ที่ปรับตัวสูงขึ้น 3 วันทำการ

-นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าต่อเนื่องจนถึงสิ้นปีนี้ ซึ่งในวันนี้คาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.75-32.90 บาท/ดอลลาร์
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืนนี้

- ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้

Prelim GDP q/q ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 3.5 % ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 3.3 %

CB Consumer Confidence ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 94.5 ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 95.9

ทิศทางราคาทองคำ

ตลาดทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบเช่นเดิม โดยปราศจากตัวกระตุ้นทางด้านข่าวใดๆ ราคาเคลื่อนไหวในกรอบ 1,195-1,205 เหรียญ โดยเมื่อวาน SPDR ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิม 720.91 ตัน ในคืนนี้จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Prelim GDP ไตรมาสที่ 3/2014 คาดว่าจะลดลงเล็กน้อย ขณะที่ CB Consumer Confidence คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย จึงคาดว่าจะไม่ส่งผลใดๆต่อตลาดมากนัก ขณะที่ดอลลาร์ทรงตัวในทิศทางแข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโร เช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.2430 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินเยนอยู่ในทิศทางอ่อนค่าที่ระดับ 118.113 เยน/ดอลลาร์

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideways ในกรอบ 1,190 – 1,205 เหรียญ โดยที่ถ้าวันนี้ยังไม่สามารถยืนเหนือ 1,210 เหรียญขึ้นไปได้ โอกาสที่จะปรับตัวลงจะมีสูงขึ้น แนวรับสำคัญของทองคำอยู่ที่ 1,180 เหรียญ

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำบริหารพอร์ตให้ดี สำหรับการแกว่งตัวในทิศทาง Sideways ขณะนี้ ทำกำไรระยะสั้นระวังความผันผวนของตลาด

- นักลงทุนที่ถือ Long Position และ นักลงทุนที่ถือ Short Position
ทำกำไรระยะสั้น และบริหารพอร์ตให้สมดุลกับความผันผวนของตลาด

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
Wait and See ปรับพอร์ตให้เหมาะสมกับสภาพตลาด อย่างไรก็ดีภาพหลักของทองคำยังคงเป็นแนวโน้มขาลง

Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,620 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,820 บาท
Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,680 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,880 บาท