HGF : วิเคราะห์ราคาทองคำ โดย ฮั่วเซ่งเฮงฯ (04-07-14 | 9:57)
- รายงานจ้างงานสหรัฐดีกว่าคาด
- ECB คงอัตราดอกเบี้ยและไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
- ตลาดการเงินสหรัฐปิดวันชาติทองแกว่งตัวแคบ
เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นตอบรับรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ กดดันให้ราคาทองเมื่อคืนนี้อ่อนตัวลง แต่ด้วยประเด็นปัญหาในตะวันออกกลางยังคงเป็นปัจจัยบวก จึงทำให้ราคาทองดีดตัวกลับลดช่วงการติดลบในระหว่างวันลง และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบในวันนี้เนื่องจากตลาดการเงินสหรัฐปิดทำการ
ผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรปในช่วงค่ำที่ผ่านมามีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.15% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ตามที่ตลาดประเมิน และมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ระดับติดลบ 0.10% โดยให้เหตุผลของการกำหนดอัตราดอกเบี้ยในลักษณะดังกล่าวว่าเป็นเพราะต้องการเพิ่มศักยภาพในการปล่อยเงินกู้ให้กับธนาคารพาณิชย์ และกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว
รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐประจำเดือนมิถุนายนซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด พร้อมทั้งระดับอัตราการว่างงานที่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี กดดันให้ราคาทองเมื่อคืนนี้ปรับตัวลงในปริมาณมาก โดยการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิถุนายนมีตำแหน่งงานเพิ่มขึ้น 2.88 แสนตำแหน่ง มากกว่าผลสำรวจที่ปริมนไว้ที่ 2.15 แสนตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงมาอยู่ที่ 6.1%
ราคาทองอ่อนตัวลงสู่แนวรับบริเวณ 1,310-1,315 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา การเคลื่อนไหวในระยะสั้นของราคาทองยังมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในลักษณะของการปรับฐาน โดยคาดว่าที่แนวรับบริเวณ 1,310 และ 1,300 ดอลลาร์ จะเป็นจุดดีดตัวกลับ แต่หากราคาทองอ่อนตัวลงต่อและไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,290 ดอลลาร์ จึงจะเป็นสัญญาณขายกดดันราคาทองให้อ่อนตัวลงต่อไป
ราคาโลหะเงินดีดตัวลดช่วงการติดลบในระหว่างวันลงหลังจากมีแรงซื้อเข้ามาจากแนวรับบริเวณ 20.60-20.80 ดอลลาร์ ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาโลหะเงินจึงยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 21.20 และ 21.50 ดอลลาร์ ตามลำดับ
โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนส.ค.57
Close chg. Support Resistance
20,370 -60 20,350/20,200 20,500/20,650
การเก็งกำไรในระยะสั้นสามารถเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรจากแนวรับบริเวณ 1,310 ดอลลาร์ และ 1,300 ดอลลาร์ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,290-1,295 ดอลลาร์
ตลาดโลหะ
ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐร่วงลง 7.65 ดอลลาร์ สู่ 1,319.49 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สูงเกินคาดในเดือนมิ.ย. โดยตัวเลขดังกล่าวกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วเกินคาด ราคาสัญญาทองเดือนส.ค.ปิดตลาดร่วงลง 0.8 % สู่ 1,320.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,309.40-1,329.00 ดอลลาร์ โดยมีวอลุ่มการซื้อขายอยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ย 30 วันราว 30 % กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันพฤหัสบดีว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 288,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ส่วนอัตราการว่างงานดิ่งลงสู่6.1 % ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2008 โดยตัวเลขเหล่านี้บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่งขณะเข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลัง ในช่วงที่ผ่านมาผู้กำหนดนโยบายบางคนของเฟดเคยให้สัญญาว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับใกล้ 0 % จนกว่าอัตราการว่างงานจะร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 5.5 % และตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อกับความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงินยังคงอยู่ภายใต้การควบคุม นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่า ราคาทองสามารถปรับขึ้นพร้อมกับอัตราดอกเบี้ย โดยนายเจฟเฟอร์ คริสเตียน กรรมการผู้จัดการบริษัทซีพีเอ็ม กรุ๊ปกล่าวว่า "ถ้าหากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นั่นก็เป็นเพราะว่าเฟดกังวลกับอัตราเงินเฟ้อ และปัจจัยด้านเงินเฟ้อสามารถหนุนราคาทองให้พุ่งขึ้น ถึงแม้อัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้น"