สัปดาห์นี้รายงานการประชุมเฟดคาดกดดันราคาทอง
เน้นเก็งกำไรฝั่งขาย
• วันนี้ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 8 หลังจากในวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาทองคำหลุดแนวรับที่ 1,370 ดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของราคาในสัปดาห์ที่ผ่านมา และหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,350 ดอลลาร์สหรัฐในวันนี้ ท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นในรอบ 3 ปีที่เป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำ ขณะที่เม็ดเงินยังไหลออกจากการลงทุนทองคำ โดยเฉพาะกองทุนอีทีเอฟทองคำโดยดูจากกองทุน SPDR Gold Trust มีการขายทองคำออกมาอย่างต่อเนื่องเกือบทุกวัน
• สัปดาห์นี้ประเด็นสำคัญที่มีผลต่อราคาทองคำ ได้แก่ การเปิดเผยรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คำแถลงของประธานเฟด การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐ ยุโรปและจีน แต่ประเด็นที่คาดว่าจะมีผลมากที่สุดคือการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดที่เป็นการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 30 เม.ย. – 1 พ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดในปีนี้ 2 ครั้งที่ผ่านมาทำให้ราคาทองคำมีการปรับตัวลงแรง 20-30 ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐบางรายมีความเห็นว่าควรจะยุติมาตรการ QE ของเฟดสำหรับการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นครั้งนี้คาดว่าไม่น่าจะมีการออกมาตรการทางการเงินเพิ่มเติม แต่ธนาคารกลางญี่ปุ่นคงตอกย้ำเป้าหมายที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อถึงระดับ 2% ภายในระยะเวลา 2 ปี ส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตของของจีน ถ้าออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์จะส่งผลลบต่อราคาทอง แต่ถ้าออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์จะส่งผลบวกต่อราคา เนื่องจากจีนเป็นประเทศบริโภคทองคำรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก
• การลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์ส ยังแนะนำการเก็งกำไรฝั่งขาย สำหรับนักลงทุนที่ถือครองสถานะขายยังสามารถถือครองต่อไปได้ เนื่องจากราคาทองคำหลังจากหลุดแนวรับที่ 1,350 ดอลลาร์สหรัฐ จะมีแนวโน้มอ่อนตัวลงไปที่แนวรับถัดไปที่ 1,320 ดอลลาร์สหรัฐ กรณีที่ราคาทองฟื้นตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านที่บริเวณ 1,350 ดอลลาร์สหรัฐเปิดสถานะขายเก็งกำไรได้
ที่มา gold.in.th