วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

CGF : วิเคราะห์ราคาทองคำ โดย คลาสสิกโกลด์ฯ (07-05-13 | 09:32)

CGF : วิเคราะห์ราคาทองคำ โดย คลาสสิกโกลด์ฯ (07-05-13 | 09:32)



Gold อาจชะลอการขึ้น แต่มีแนวรับแข็งแกร่งบริเวณ 1,440 ซึ่งเมื่อใกล้แนวรับดังกล่าว อาจพบการ Rebound กลับในช่วงสั้น SET50 หากดัชนีไม่สามารถดีดกลับทะลุ 1,050/1,055 มีโอกาสย่อตัว โดยมีแนวรับสำคัญบริเวณ 1,040/1,030


Key Factors

Gold ราคาทองคำแม้จะสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ในช่วงแรง จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของ ECB และเฟด และความต้องการซื้อทองคำที่มากขึ้นของตลาด Physical โดยเฉพาะในประเทศจีนและอินเดีย ในช่วงเทศกาล "Akshaya Tritiya" ซึ่งจะตรงกับวันที่ 13 พ.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,490 ทำให้มีแรงขายทางจิตวิทยาออกมา รวมถึง การขายอย่างต่อเนื่องของกองทุน SPDR ยังเป็นแรงกดดันต่อ sentiment ของตลาดทองคำ ให้ราคาทองคำขึ้นได้ในกรอบที่จำกัด อีกทั้ง ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาดี โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานที่สดใส ส่งผลให้นักลงทุนโยกเงินไปลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ดัชนี Dow Jones สามารถทำ New High อีกครั้ง ขณะเดียวกัน นักลงทุนกลับลดแรงซื้อในตลาดทองคำลง ส่งผลให้ราคาทองคำ ยังอยู่ในช่วงการชะลอการปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ ต้องจับตาดู ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ยุโรป และจีนในสัปดาห์นี้ ว่าจะสามารถหนุนราคาทองคำกลับขึ้นมาได้หรือไม่ ขณะที่ภาพทางเทคนิคระยะกลาง ยังไม่ส่งสัญญาณบวก/ลบที่ชัดเจน

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 14,968.89 จุด เพิ่มขึ้น 137 จุด ดัชนีดาวโจนส์ ปรับเพิ่มขึ้น จากข้อมูลตลาดแรงงานที่สดใส

USD/THB แนวโน้มเงินบาทวันนี้ กลับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แต่ยีงมีแนวโน้มทรงตัวระดับสูง หลังจากรัฐบาลมีแนวโน้มเข้าควบคุมค่าเงินบาท

Oil ราคาน้ำมันดิบ Nymex ปรับเพิ่มขึ้น จากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และ จากสถานการณ์รุนแรงในตะวันออกกลาง


Market Movement

Gold มีราคาปิดลดลง 1.31 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 1,468.89 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,456 – 1,487 USDต่อออนซ์ ในช่วงเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,462 USDต่อออนซ์ โดยวันนี้ มีแนวต้านบริเวณ 1,470/1,480 และแนวรับ 1,450/1,440

USD/THB ปิดที่ 29.59 บาทต่อUSD เช้านี้ทรงตัวบริเวณ 29.57 วันนี้มีแนวต้านบริเวณ 29.7 / 30.3 แนวรับบริเวณ 29.4 / 29

ICE Brent ปิดที่บริเวณ 105.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล วันนี้มีแนวต้านบริเวณ 106.2 / 106.65 / 108.4 และแนวรับบริเวณ 104 / 103.3 / 102.2


Recommendations

ระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,440 – 1,480 แนะนำ Trading ในกรอบ

ระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,400 –1,550 แนะนำ รอ Short เมื่อราคา Rebound เข้าแนวต้าน

ระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,300 – 1,600 แนะนำ ทยอยเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวเข้าใกล้ 1,300


Technical Commentary

ภาพกราฟทางเทคนิคภาพกราฟทางเทคนิคในรายวัน ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบสามเหลี่ยม และมีแนวโน้มหลุดกรอบดังกล่าว ซึ่งจะส่งสัญญาณลบต่อราคาทองคำ ดังนั้น หากวันนี้ ราคาปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 1,460/1,455 ราคามีแนวโน้มอ่อนตัวลงมาได้อีก 10 – 20 เหรียญ อย่างไรก็ตาม แนวรับที่บริเวณ 1,440 ยังแข็งแกร่ง ดังนั้น หากอ่อนตัวใกล้บริเวณดังกล่าว อาจพบการ rebound กลับในช่วงสั้น --- ขณะที่ หากราคาไม่หลุดแนวรับ 1,450/1,440 ราคามีโอกาสเคลื่อนไหว Sideway ออกด้านข้าง เพื่อรอทิศทางในระยะถัดไป

Strategy : Trading ในกรอบ


Key Point

Positive View ( + )

แนวโน้มการดำเนินมาตรการ QE ต่อเนื่อง

แรงซื้อจากธนาคารกลางรัสเซีย ตุรกี และคาซัคสถา

ECB ลดอัตราดอกเบี้ยตามคาด

เข้าใกล้เทศกาลซื้อทองของอินเดีย


Negative View ( - )

เงินบาทแข็งค่าขึ้น

ค่าเงิน USD แข็งค่า ค่าเงินยูโรอ่อนค่า

ความกังวลในเศรษฐกิจยุโรป


ปัจจัยที่ต้องติดตาม

แนวโน้มค่าเงินบาท

ประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซน (13 เม.ย.)


Spot Silver

โลหะเงินพยายามทรงตัวเหนือ 23.6–23.7 โดยการยืนระดับนี้ได้ จะทำให้ราคามีฐานที่มั่นคงสำหรับการดีดตัวขึ้นต่อ

ให้แนวต้านบริเวณ 24.3 / 24.8

ให้แนวรับบริเวณ 23.6 / 22.9

Strategy : ถือ long แต่ cut loss ทันที หากหลุด 23.6


USD/THB

เงินบาทอ่อนค่าแตะกรอบบนของ channel ขาลงเดิมที่บริเวณ 29.7 แต่ rsi ยังไม่เข้าเขต overbought ทำให้มีแนวโน้มอ่อนตัวต่อเนื่อง โดยมีแนวรับระยะสั้นที่บริเวณ 29.4 ซึ่งเป็นเส้น moving average

ให้แนวต้านบริเวณ 29.7 / 30.3

ให้แนวรับบริเวณ 29.4 / 29

Strategy : trading ในกรอบแนวรับ–แนวต้าน หรือ ถือ short USD โดย cut loss ทันที หากผ่าน 29.7


Key Point

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- พ.ร.บ. เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท จะขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

- 29 พ.ค. การประชุมกนง.ครั้งที่ 4 อาจพิจารณาลดดอกเบี้ย

ข่าวในประเทศ

- ค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่าเล็กน้อย และการปรับตัวสูงขึ้นของดัชนี Dow Jones อาจช่วยพยุงการปรับขึ้นของ SET 50

- ไทยเบฟ เตรียมงบประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อทำกิจกรรมการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ ทั้งโซดาและน้ำดื่ม

- ธปท.เผยรายได้เฉลี่ยลูกจ้างคนไทยปี 56 ยังคงสูงต่อเนื่อง ภาคเกษตรเพิ่มขึ้นสูงสุดจากสิ้นปีที่ผ่านมา 705 บาทต่อเดือน แต่รายได้รวมอยู่ที่ระดับ 5,400 บาทต่อเดือน


Exclusive News

เศรษฐกิจสหรัฐ เจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐสาขาริชมอนด์ ไม่เห็นด้วยกับนโยบายการฟื้นพันธบัตรของธนาคารกลางสหรัฐ โดยชี้ว่า การซื้อพันธบัตรอาจจะไม่สามารถกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจให้สูงเกินกว่า 2% ได้ ขณะเดียวกันก็ยังทำให้การยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ท้าทายมากยิ่งขึ้น


เศรษฐกิจเอเชีย ญี่ปุ่นจะเพิ่มความร่วมมือด้านการเงินกับกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งให้การสนับสนุนตลาดพันธบัตรของประเทศเหล่านี้ และช่วยบริษัทของญี่ปุ่นให้สามารถระดมทุนในรูปของสกุลเงินท้องถิ่นได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยญี่ปุ่นจะพิจารณาเรื่องการกระตุ้นการดำเนินการด้านการเงินฉุกเฉินกับมาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ซึ่งเป็นความพยายามในการฟื้นการขยายตัวของประเทศ และเพื่อรับมือกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในความขัดแย้งกับจีน ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับความสัมพันธ์ทางการค้ามูลค่าถึง 3.4 แสนล้านดอลลาร์


เศรษฐกิจเอเชีย นักวิเคราะห์จาก เนชันแนล บินิเนส เดลี่ คาดว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ของจีนในเดือน เม.ย.จะเพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี จากระดับ 2.1% ในเดือน มี.ค. ซึ่งยังต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 3.5% เนื่องจากราคาอาหารซึ่งมีสัดส่วนมากที่สุดในการคำนวณดัชนี CPI ปรับตัวลงในเดือน เม.ย.หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสไข้หวัดนก H7N9 ในประเทศจีน ซึ่งทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวลดลงด้วย


เศรษฐกิจเอเชีย HSBC เผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคบริการของจีนในเดือน เม.ย.ปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 51.1 จากระดับ 54.3 ของเดือน มี.ค. ส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนในเดือน เม.ย.ลดลงแตะ 50.4 ซึ่งชะลอลงจากเดือน มี.ค.ที่ระดับ 51.6 สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับความเสี่ยงมากขึ้น แต่ดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 แสดงให้เห็นว่าภาคบริการยังคงมีการขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า แม้เป็นไปในอัตราที่ชะลอลง


เศรษฐกิจเอเชีย จีนเตรียมเพิ่มมาตรการตรวจสอบผู้นำเข้าและผู้ส่งออกที่นำเงินเข้ามาโดยลงว่าเป็นค่าใช้จ่ายด้านการค้า หลังจากค่าเงินหยวนของจีนแข็งค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยจะส่งหนังสือแจ้งเตือน 10 วัน ในกรณีที่พบว่าสินค้าและเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทไม่ตรงกับหลักฐานที่นำส่ง หรือ พบว่ามีการขนย้ายเงินจำนวนมากเข้ามาในจีน ทั้งนี้ บริษัทที่ถูกระบุว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม จะถูกจัดไว้ในบัญชีประเภทบีซึ่งใช้สำหรับบริษัทที่ควรจับตาอย่างใกล้ชิดมากขึ้นเป็นเวลา 3 เดือนติดต่อกัน และจะได้กลับไปอยู่ในบัญชีประเภทเอ ก็ต่อเมื่อข้อบ่งชี้ที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ กลับสู่สภาวะปกติแล้ว


เศรษฐกิจเอเชีย ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของเกาหลีใต้เดือน เม.ย.พุ่งขึ้น 1.39 พันล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 3.288 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเกือบแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.2891 แสนล้านดอลลาร์ซึ่งทำไว้เมื่อเดือน ม.ค.ปีนี้ เนื่องจากรายได้จากการลงทุนปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมาจากมูลค่าสินทรัพย์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่น เงินยูโรและเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

classicgoldfutures.co.th

gold.in.th