Today Strategy:
Gold ราคาแก่วงตัวในกรอบแคบ ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญบริเวณใกล้ 1,400 ไปได้ SET50 ยังตั้งฐานเหนือ 1,048 แสดงถึงแรงซื้อกลับอย่างแข็งแกร่ง แต่หากยังไม่สามารถทะลุผ่าน 1,060/1,070 อาจพบการอ่อนตัวลงมาอีกครั้ง
Key Factors
• Gold เมื่อวานนี้ตลาดสหรัฐปิดทำการเนื่องในวัน Memorial Day ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบและมีปริมาณการซื้อขายเบาบาง แต่ปิดบวกได้ที่ระดับ 1,394.28 USDต่อออนซ์ โดยมีรายงานข่าวจาก IMF ว่า ธ.กลางของรัสเซีย คาซัคสถาน และตุรกีได้เข้าซื้อทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้นในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นเดือนที่ราคาทองคำปรับลดลงแรง นอกจากนี้มีการคาดการณ์ของสภาทองคำโลกว่า ธ.กลางของประเทศต่างๆในปีนี้จะซื้อทองคำเพิ่มขึ้นอีก 550 ตันจากปีก่อนที่ระดับ 534.6 ตัน อย่างไรก็ตามในเช้าวันนี้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมาที่ระดับ 1,392 USDต่อออนซ์ เนื่องจากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,398 ขึ้นไปได้ นอกจากนี้มีข่าวว่าแรงซื้อทองคำในตลาด physical ของอินเดียลดลงในสัปดาห์แรกของเดือนพ.ค. เนื่องจากมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าทองคำ และค่าเงินรูปีที่อ่อนตัวลง และเช้านี้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้นกดดันราคาทองคำ คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,382/1,358 ส่วนแนวต้านของวันมีที่บริเวณ 1,398/1,411 โดยนักลงทุนจะจับตาดูการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในวันนี้ ได้แก่ ได้แก่ ดัชนีการผลิตเขตมิดเวสต์ ราคาบ้าน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ในวันพฤหัสบดี ได้แก่ ตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 1 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน แนะนำ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน
• ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดสหรัฐปิดทำการเนื่องในวัน Memorial Day เมื่อวานนี้ดัชนี นิคเคอิของตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลงแรงถึง 469.80 จุดหรือ 3.2% แต่ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น
• USD/THB เงินบาทมีมูลค่าการซื้อขายเบาบาง โดยตลาดจะรอผลการประชุม กนง.ในวันที่ 29 พ.ค.นี้
• Oil ตลาด Nymex ปิดทำการ เนื่องในวัน Memorial Day
Market Movement
• Gold ปิดที่ 1,394.28 USDต่อออนซ์ บวก 8.73 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,383.74 – 1,396.40 USDต่อออนซ์ ในช่วงเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,392 USDต่อออนซ์ โดยวันนี้ มีแนวต้านบริเวณ 1,398/1,411 และแนวรับ 1,382/1,358
• USD/THBปิดที่ 29.83 บาทต่อUSD เช้านี้อ่อนค่าลงเล็กน้อยมาที่ 29.89 วันนี้มีแนวต้านบริเวณ 30.2 / 30.5 แนวรับบริเวณ 29.65 / 29.55
• ICE Brent ปิดที่บริเวณ 102.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล วันนี้มีแนวต้านบริเวณ 103 / 104.5และแนวรับบริเวณ 100.8 / 100.2
Recommendations
ระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,320 – 1,380 แนะนำ Trading ในกรอบ
ระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,300 –1,500 แนะนำ สะสม Long หากไม่หลุด 1,300
ระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,300 – 1,600 แนะนำ รอจังหวะเข้าสะสม Long อีกครั้ง
Technical Commentary
• ภาพกราฟทางเทคนิคภาพกราฟทางเทคนิคในรายวัน รูปแบบราคาเป็น double bottom ทำให้มีแรงฟื้นกลับหรือทรงตัวได้ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม แนวโน้มหลักยังเป็นขาลง จึงควร Trading และทำกำไรในระยะสั้นเท่านั้น
• Strategy : Trading ในกรอบ
Key Point
Positive View( + )
• นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารต่างๆ ทั่วโลก
• เงินบาทอ่อนค่า
Negative View( - )
• แนวโน้มการยุติการดำเนินมาตรการ QE ต่อเนื่อง
• ความกังวลในเศรษฐกิจยุโรป
• อินเดียออกมาตรการจำกัดการนำเข้าทอง
• ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้
• การประชุม G8 ในวันศุกร์
Spot Silver
โลหะเงินยังคงแกว่งตัวแคบ ๆ อยู่เหนือระดับ 22 ขณะที่ rsi แกว่งตัวบริเวณ 50 ทำให้มีแนวโน้มไม่ชัดเจนว่าจะเลือกทิศทางอย่างไร จึงยังคงให้กรอบ 21–23 เช่นเดิม แต่ควรระวังความผันผวนในกรอบดังกล่าวมากขึ้น
ให้แนวต้านบริเวณ 23.1 / 23.5
ให้แนวรับบริเวณ 20.9 / 19.8
Strategy : trading ในกรอบแนวรับแนวต้าน
USD/THB
เงินบาทแกว่ง sideway ทดสอบบริเวณ 30 ก่อน กนง.จะประชุมกันในวันที่ 29 พ.ค. ซึ่งส่วนใหญ่คาดว่าจะลดดอกเบี้ยลง 0.25% เพื่อคลายความกดดันต่อค่าเงิน จึงควรจับตาใกล้ชิด ทั้งนี้ แนวโน้มเงินบาทมีความไม่แน่นอน เนื่องจาก rsi แกว่งตัวแคบ ๆ เตือนให้ระวังความผันผวนที่กำลังจะมา
ให้แนวต้านบริเวณ 30.2 / 30.5
ให้แนวรับบริเวณ 29.65 / 29.55
Strategy : wait & see
Key Point
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
- พ.ร.บ. เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท จะขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
- 25-28 พ.ค. ดุลการค้าเดือน เม.ย.
- 29 พ.ค. การประชุมกนง.ครั้งที่ 4 อาจพิจารณาลดดอกเบี้ย
- 6 มิ.ย. สรุปผลการคัดเลือกผู้ชนะประมูลโครงการบริหารจัดการน้ำ และ คาดว่าจะเสนอที่ประชุมครม. พิจารณาได้ ในวันที่ 11 มิ.ย.
ข่าวในประเทศ
- TTCL ได้งานก่อสร้างโรงไฟฟ้า 3 โรงในไทย มูลค่า9.8 พันล้านบาท
- สบน. ระบุ กระทรวงการคลังได้กู้เงิน เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณผ่านการออกพันธบัตรรัฐบาล 1.3 หมื่นล้านบาท และพันธบัตรออมทรัพย์ 54 ล้านบาท
- บางกอกแลนด์ กำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ กว่า 2.3 พันล้านบาท หรือโตกว่า 276% จากปีก่อน